วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ความคืบหน้า จีนลงทุนสามเหลี่ยมทองคำฝั่งลาว

ลาวเปิดกาสิโนใหญ่สามเหลี่ยมทองคำ ก.ย. นี้ 1

กาสิโนแห่งแรกของลาวในเขตสามเหลี่ยมทองคำกำลังก่อสร้างใกล้จะเสร็จแล้ว




มันมาพร้อมกับการพัฒนา-- "ศูนย์บริการท่องเที่ยวครบวงจร" เป็นนิยามที่นิยมใช้กันแพร่หลายในประเทศ แถบนี้ ทุกแห่งแสดงนัยให้เห็นว่าเป็นแหล่งพนันถูกกฎหมาย สำหรับนักเสี่ยงโชคระดับบน
ภาพถ่ายวันที่ 23 มิ.ย.52 มองข้ามแม่น้ำโขงทางด้านสบรวก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย กาสิโนใหญ่กำลัง
เร่งวันเร่งคืนก่อสร้าง เพื่อเปิดในอีก 3 เดือนข้างหน้า เป็นผลงานของนักลงทุนจีน
และกำลังจะเป็นกาสิโนแห่งแรกของลาวในเขตสามเหลี่ยมทองคำ


นักลงทุนจีนกำลังจะเปิดแหล่งบริการท่องเที่ยวครบวงจรในแขวง บ่อแก้ว ของลาวในเดือน ก.ย. ศกนี้ ขณะที่ทางการแขวงได้เชื้อเชิญนักลงทุนจากไทยให้เข้าลงทุนในแขนงที่มีศักยภาพต่างๆ เพื่อรอรับสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงแหงที่ 4 (ห้วยทราย-เชียงของ) ที่คาดว่าจะลงมือก่อสร้างได้ใน ปลายปีนี้


สถานบริการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ในเขตเมืองต้นผึ้ง ประกอบด้วยสถานกาสิโนหรูหราพร้อมกับโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว กับศูนย์การค้าครบวงจร จะเป็นกาสิโนแห่งแรกตามแนวชายแดนติดกับไทย และพม่าทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ


รองเจ้าแขวงบ่อแก้วเปิดเผยเรื่องนี้กับคณะสมาคมไทย-ลาวเพื่อมิตรภาพที่เดินทางไปเยือนวันอังคาร (23 มิ.ย.) ที่ผ่านมา


เมืองห้วยทรายซึ่งเป็นเมืองเอกของแขวง ในปัจจุบันเป็นหน้าด่านสู่ถนนสายเอเชีย “สาย 3 เอ” (A3a) หรือ “อา3อา” ตามสำเนียงภาษาฝรั่งเศสในลาว เป็นจุดเริ่มต้นจาก อ.เชียงของ จ.เชียงรายของไทยไปยังมณฑลสิบสองปันนา และมณฑลหยุนหนันของจีน


ปัจจุบันเมืองหน้าด่านสำคัญแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก ขณะที่ทุกฝ่ายกำลังรอสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4


"สะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 จะเป็นด่านสุดท้ายในการเชื่อมกรุงเทพฯ เข้ากับนครคุนหมิงของจีน" คำพูดของดร.วีระพงษ์ รามางกูร นายกสมาคมไทยลาวเพื่อมิตรภาพกล่าวระหว่างพิธีต้อนรับที่จัดขึ้น ณ สำนักงานปกครองแขวง


สถานกาสิโนแห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการ หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวโรงแรม-กาสิโนขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐานโลก “สะหวัน-เวกัส” ขึ้นในเมืองไกสอน พมวิหาร แขวงสะหวันนะเขต เมื่อต้นปีนี้




ใต้ลงมาราว 2 กิโลเมตรเป็นท่าเรือเชียงแสน ภาพถ่ายวันที่ 23 มิ.ย.2552 ที่นี่ขยายตัวรวดเร็วมาก มีเรือสินค้ากับเรืออีกนานาชนิดทั้งสัญชาติไทย จีน ลาวและพม่าจอดกันเรียงราย





เรือจีนจอดที่บริเวณท่าศุลกากร ติดกับท่าเรือพาณิชย์ที่เชียงแสน มาที่นี่พร้อมกับสินค้า
จอดที่นี่รอเพื่อจะกลับไปพร้อมสินค้า


สถานบริการท่องเที่ยวครบวงจรดังกล่าวตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงฝั่งตรงข้ามบริเวณสบรวก อ.เชียงแสน ซึ่ง ปัจจุบันทางฝั่งไทยเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้าง ร้านค้า และแหล่งประกอบการต่างๆ เรียงรายไปตามริมฝั่งแม่น้ำมองจากฝั่งไทยจะเห็นสถานกาสิโนที่กำลังก่อสร้างอย่างรีบเร่ง เพื่อให้เปิดใช้การทันกำหนดการปลายปีนี้ซึ่งเป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยว และยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นใดอีก


มีการสอบถามเกี่ยวกับโอกาสของนักลงทุนไทยที่จะไปลงทุนสร้างท่าเรืออีก 1 แห่ง ที่สถานกาสิโนของลาว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ “นักท่องเที่ยว” ซึ่งรองเจ้าแขวงบ่อแก้ว กล่าวว่า ยินดีต้อนรับความคิดอันนี้ และจะนำไปหารือกับรัฐบาลกลางเพื่อขอคำชี้แนะต่อไป


อย่างไรก็ตามรองเจ้าแขวงบ่อแก้วกล่าวว่า ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติจากหลายประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เข้าลงทุนในแขวงนี้มากขึ้นทุกวัน แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมามีนักลงทุนจากไทยน้อยมาก


หกเดือนแรกของปีนี้ มีนักลงทุนจากไทยเพียง 1 ราย ที่เข้าลงทุนเปิดร้านอาหารในเมืองห้วยทราย เทียบกับการลงทุนจากต่างประเทศที่มีมูลค่ารวมประมาณ 1.9 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนเดียวกัน ทั้งนี้เป็นตัวเลขอย่างเป็นทางการ


อ้างอิง : นสพ. ผู้จัดการออนไลน์ 25 มิ.ย.2552


เชียงราย -คอมเพล็กซ์ยักษ์จีนบนสามเหลี่ยมทองคำฝั่งลาวขยายเครือข่ายต่อเนื่อง ยันเดินหน้าสร้างสนามบินเองภายใน 1-2 ปีต่อจากนี้ พร้อมจ่อเปิดกาสิโนใหญ่เพิ่มอีก เทียบชั้นมาเก๊า หลัง สปป.ลาว ไฟเขียวเพิ่มพื้นที่สัมปทานเป็นร่วมหมื่นไร่ และขยายเวลาเช่าเป็น 99 ปีให้แล้ว รับแม้ม็อบเสื้อแดงกระทบยอดลูกค้าจีน จน”นกมินิ”ต้องงดบิน เชียงราย-เชียงรุ่งชั่วคราว แต่เชื่อมั่นฟื้นตัวได้เร็ววันนี้

น.ส.นงเยาว์ ปาสามลีย์ กรรมการฝ่ายการท่องเที่ยวโครงการ Kings Romans of Laos Asian & Tourism Development Zone ของกลุ่มทุนจีนในนาม “ดอกงิ้วคำ” ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทจิน มู่เหมิน จำกัด ที่เข้ามาลงทุนพัฒนาพื้นที่แถบสามเหลี่ยมทองคำฝั่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว )สร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์และโครงการต่อเนื่อง มูลค่านับหมื่นล้านบาท เปิดเผย "ASTVผู้จัดการรายวัน" ว่า ปัจจุบันโครงการได้รับสัมปทานเช่าที่ดินที่เมืองต้นผึ้ง ขยายจากเดิมที่ได้ 5,168.75 ไร่ ภายใต้สัญญาเช่า 75 ปี เป็นประมาณ 7,500 ไร่และขยายเวลาออกไปเป็น 99 ปีแล้ว

จนถึงขณะนี้ได้ดำเนินการมาได้เป็นปีที่ 3 แล้วจากที่ตั้งเป้าให้โครงการแล้วเสร็จภายใน 10 ปี ปัจจุบันโครงการที่แล้วเสร็จคือ โรงแรมสวนงิ้วคำ ขนาด 3 ดาวจำนวน 3 แห่งรวมห้องพัก 700 ห้อง สนามแข่งม้า ถนนโครงข่ายภายในโครงการ พื้นที่ทางการเกษตร ท่าเรือ ด่านพรมแดน บ่อนกาสิโนแห่งแรก ฯลฯ รวมแล้วประมาณ 30% ของโครงการทั้งหมด

ล่าสุด กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้างห้างสรรพสินค้า เขตการค้าเสรี สถานบันเทิงบนเกาะดอนซาว เขื่อนเรียงหินริมฝั่งแม่น้ำโขงเพื่อป้องกันตลิ่งพัง และสนามบินเพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างได้ในอีก 1-2 ปีนี้ รวมทั้ง สนามกอล์ฟ โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ

น.ส.นงเยาว์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าของการก่อสร้างในปัจจุบัน ได้แก่ การที่โครงการได้มีการอพยพชาวบ้านที่หมู่บ้านกว๊าน ติดกับสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 100 หลังคาเรือนไปอยู่ที่บริเวณเชิงเขา เพื่อพัฒนาเป็นหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยวหรือโฮมสเตย์คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2553 เพราะบริเวณดังกล่าวอยู่ติดกับด่านพรมแดนที่ต้องมีการเข้าออก ส่วนสถานที่ว่างลงก็จะสร้างเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว และสนามม้า โดยในส่วนของโรงแรมจะมีเพิ่มอีก 2 แห่งรวมห้องพักเพิ่มประมาณ 500 ห้อง

น.ส.นงเยาว์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังจะสร้างสนามบินขนาดรันเวย์ยาวประมาณ 3 กิโลเมตรเพื่อให้มีศักยภาพในการทำการบินนานาชาติ เช่น รับเครื่องบินขนาดโบอิ้ง 737 ได้ เป็นต้น หลังจากก่อนหน้านี้ได้ซื้อเฮลิคอปเตอร์เอาไว้แล้วจำนวน 2 ลำ แต่ยังมีปัญหาเรื่องการฝึกฝนนักบินเพื่อไว้ทำการบินภายในประเทศอยู่ ขณะเดียวกันโครงการทำสนามบินและอื่นๆ ก็ต้องชะลอออกไปก่อน เนื่องจากที่ผ่านมาเราประสบปัญหาเรื่องการคมนาคมจากจีนตอนใต้ผ่านถนนR 3 a ที่เชื่อมระหว่างบ่อหาน-บ่อเต็น ไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ซึ่งห่างจากสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 58 กิโลเมตร ทำให้เส้นทางคมนาคมไม่สะดวกและเป็นอุปสรรคต่อคนจีน ที่เดินทางไปยังโครงการจนกระทบต่อนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งถือเป็น 80% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่ไปเยือน

ผู้จัดการฝ่ายการท่องเที่ยวของ โครงการ Kings Romans of Laos Asian & Tourism Development Zone กล่าวต่อว่าด้วยเหตุนี้จึงทำให้โครงการในปัจจุบันมุ่งไปที่การก่อสร้างถนนสายเมืองมอม-ห้วยทราย เป็นหลักเพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง ซึ่งเชื่อว่าเมื่อแล้วเสร็จจะทำให้คนจีนเดินทางไปมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้พยายามใช้บริการเครื่องบินของสายการบินนกมินิด้วยเครื่องบินขนาด 33 ที่นั่งจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ไปยังเมืองเชียงรุ่งหรือจิ่งหง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา จีนตอนใต้ วันละ 1 เที่ยวเพื่อให้รองรับคนจีน

แต่ปรากฏว่าพบกับอุปสรรคที่ 2 นอกเหนือจากเรื่องถนนคือปัญหาภายในประเทศไทย ทำให้คนจีนไม่เดินทางมาเยือนด้วยสายการบินได้ตามปกติ จนปัจจุบันสายการบินนกมินิ ต้องหยุดทำการบินไปชั่วคราวหลังจากเปิดมาได้ประมาณครึ่งเดือน

น.ส.นงเยาว์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามคาดว่าถนนเชื่อมห้วยทราย-สามเหลี่ยมทองคำจะแล้วเสร็จในปีนี้และโครงการก็กำลังก่อสร้างบ่อนกาสิโนแห่งใหม่ ซึ่งจะใหญ่กว่าแห่งเดิมเทียบเท่ากับบ่อนกาสิโนที่มาเก๊า ประเทศจีน แต่อาจจะไม่เทียบเท่ากับลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งก็จะทำให้คนจีนสามารถเดินทางผ่าน สปป.ลาว ได้โดยตรง โดยบ่อนกาสิโนแห่งใหม่อยู่ติดกับแห่งที่ 1 มีกำหนดจะเปิดในวันที่ 9 กันยายน53

จากนั้น จะดำเนินโครงการอื่นๆ เช่น สนามบิน สนามกอล์ฟ สถานบันเทิงบนเกาะดอนซาว ประเภทคลับ บาร์ ฯลฯ ต่อไป และในระยะยาวอาจจะสร้างถนนจากเมืองมอมเลาะแม่น้ำโขงไปยังจีนตอนใต้โดยตรงด้วย

น.ส.นงเยาว์ ยืนยันว่า สภาพปัจจุบันแม้จะประสบปัญหา แต่โรงแรมทั้ง 700 ห้องก็เกือบเต็มทั้งหมด โดยคิดค่าที่พัก 1,400-2,000 กว่าบาทต่อคืน ขณะที่อาคารพาณิชย์ ห้องเช่าที่เป็นร้านอาหารและอื่นๆ บริเวณโดยรอบโรงแรมถูกเช่าและจองล่วงหน้าจนเต็มหมดแล้ว ซึ่งมีการกำหนดค่าเช่าสำหรับร้านอาหารประมาณ 6,000 บาทต่อเดือน ส่วนห้องเช่าอื่นๆ ประมาณ 2,500 บาทต่อเดือน รวมทั้งเปิดให้เช่าภายในบ่อนกาสิโนแห่งใหม่อีกด้วย โดยมีสำนักงานอยู่ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าห้าเชียงเลขที่ 292 หมู่บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ทั้งนี้ระหว่างก่อสร้างโครงการต่างๆ รัฐบาล สปป.ลาว ยังได้ปรึกษากับโครงการ เพื่อให้ขยายโครงการไปทางเมืองมอม ซึ่งอยู่เหนือแม่น้ำโขงขึ้นไปอีก เพื่อพิจารณาก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูป ซึ่งบริษัทก็กำลังศึกษาในเรื่องนี้อยู่ เนื่องจากเนื้อที่เดิมที่มีอยู่ก็กว้างขวางมากพออยู่แล้ว


สะพานข้ามโขงแห่งที่4 ระหว่างไทย อ.เชียงของ กับลาว เมืองห้วยทราย



วันนี้(9 ก.ค.)นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อมระหว่าง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ของไทย กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ในประเทศลาว เพื่อเชื่อมถนนอาร์สามเอ (ไทย-ลาว-จีน ) ว่า กรณีที่ไทยกับจีน  จะร่วมกันออกงบประมาณนั้น จากการสอบถามความคืบหน้าไปยังแขวงการทาง จ.เชียงราย ทราบว่า อยู่ระหว่างการคัดเลือกเอกชนที่เสนอตัวเข้าไปก่อสร้างจำนวน 5 กลุ่ม รวมจำนวน 9 บริษัท  มาจากทั้งในประเทศไทย สปป.ลาว และจีน โดยมีกรมทางหลวงเป็นหน่วยงานรับผิดชอบเต็มตัว

ซึ่งทางด้าน นายรังสรรค์ สุขชัยรังสรรค์ รองผู้อำนวยการแขวงการทางฝ่ายปฏิบัติการ แขวงการทางเชียงรายที่ 1 กล่าวว่า  ตามข้อตกลง จะต้องเป็นบริษัทร่วมไทย-จีน  และปรากฏว่ามีเอกชน 5 กลุ่มเสนอตัวเข้าทำการก่อสร้าง โดยบางกลุ่มประกอบไปด้วยเอกชนจากไทย 1 บริษัท และจีน 1 บริษัท บางกลุ่มมีจาก สปป.ลาว เข้าร่วมด้วย

 ส่วนงบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 1,934 ล้านบาท ฝ่ายไทย 1,034.7 ล้านบาท และฝ่ายจีน 967 ล้านบาท กำหนดเริ่มศึกษาพื้นที่ตั้งแต่เดือน ก.ค.2552 และกำหนดให้ก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน  ก.ย.2555




รู้จักท็อป 10 ประเทศเศรษฐีทองคำ

รัฐบาลประเทศต่างๆ ทั่วโลกเริ่มส่งสัญญาณว่าสูญเสียศรัทธาต่อ "ดอลลาร์สหรัฐ"ในฐานะสกุลเงินสากล และการกระทำก็ยิ่งสะท้อนความคิดดังกล่าวให้เห็นชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดใดๆ

ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลางเม็กซิโกทุ่มเม็ดเงิน 4.6 พันล้านดอลลาร์ซื้อทองคำ 93.3 ตันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ส่วนจีนก็ครองตำแหน่งผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดในปีที่ผ่านมา ทั้งคาดกันว่าจะเดินหน้าซื้อทองคำต่อไปในปีนี้ ขณะที่หลายประเทศได้สร้างพอร์ตทองคำ และบางประเทศแสดงความตั้งใจซื้อทองคำมาครอบครองมากยิ่งขึ้น

คราวนี้มาลองดูกันว่า ประเทศไหนเป็นมหาเศรษฐีทองคำในปัจจุบัน ซึ่งบิสซิเนสอินไซเดอร์ ได้อ้างอิงข้อมูลจาก "สมาพันธ์ผู้ผลิตทองคำแห่งโลก" เกี่ยวกับประเทศที่ติดอันดับท็อป 10  ผู้ครอบครองทองคำมากที่สุดในโลก ดังนี้

อันดับ 10 อินเดีย เจ้าของทองคำ 558 ตัน หรือคิดเป็น 8.3% ของทุนสำรองของประเทศ โดยเมื่อสิ้นปี 2552 ธนาคารกลางอินเดียใช้เงิน 6.7 พันล้านดอลลาร์ซื้อทองคำ 200 ตัน จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และมองว่าทองคำเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย แต่แทบจะไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนการซื้อทองคำของประเทศ

อันดับ 9 เนเธอร์แลนด์ มีทองคำในครอบครอง 613 ตัน หรือคิดเป็น 58.5% ของทุนสำรองประเทศ ประธานธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์เคยให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์กว่า ยังไม่มีแผนที่จะขายทองคำ

อันดับ 8 ญี่ปุ่น เจ้าของทองคำ 756 ตัน คิดเป็น 3.1% ของทุนสำรอง แต่ล่าสุดธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ขายทองคำส่วนหนึ่งเพื่ออัดฉีดเงิน 20 ล้านล้านเยน เข้าระบบเศรษฐกิจ หวังบรรเทาความตื่นตระหนกของนักลงทุนหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว สึนามิ และวิกฤตนิวเคลียร์

อันดับ 7 รัสเซีย มีทองคำในครอบครอง 792 ตัน หรือ 7.3% ของทุนสำรอง นอกจากนี้คาดว่าธนาคารกลางรัสเซียจะซื้อทองคำเพิ่มในปีนี้ เพื่อเพิ่มทุนสำรอง แต่จะซื้อจากตลาดท้องถิ่นเท่านั้น

อันดับ 6 สวิตเซอร์แลนด์ ครอบครองทองคำ 1,040 ตัน หรือ 16.3% ของทุนสำรอง ทั้งนี้ระหว่างปี 2543-2548 ธนาคารกลางสวิสขายทองคำ 1,300 ตัน ซึ่งเกี่ยวกับการเปิดตัวเงินยูโร และในปี 2553 ทุนสำรองทองคำมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นคิดเป็น 1 ใน 4 ของทุนสำรองทั้งหมด แต่ไม่มีท่าทีว่าจะเร่งเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก

อันดับ 5 จีน เจ้าของทองคำ 1,054 ตัน หรือ 1.6% ของทุนสำรองทั้งหมด ธนาคารกลางจีนกำลังมองหาลู่ทางซื้อทองคำเพิ่ม เพื่อลดความเสี่ยงจากฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ ภาวะเงินเฟ้อ และสกุลเงินดอลลาร์และยูโร ปัจจุบัน จีนเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก

อันดับ 4 ฝรั่งเศส ครอบครองทองคำ 2,435 ตัน หรือคิดเป็น 66% ของทุนสำรองประเทศ ฝรั่งเศสและธนาคารกลางอื่นๆ ในยุโรปมีข้อตกลงเกี่ยวกับการจำกัดการขายทองคำ โดยประเทศผู้ลงนาม 19 ประเทศ ได้ขายทองคำรวมกันประมาณ 10 ตันในรอบปีแรกที่มีการทำข้อตกลง หรือในช่วงกันยายน 2552-กันยายน 2553

อันดับ 3 อิตาลี เจ้าของทองคำ 2,452 ตัน หรือ 69% ของทุนสำรองประเทศ ปัจจุบัน ธนาคารในอิตาลี ซึ่งเป็นผุ้ถือหุ้นธนาคารกลางอิตาลีกำลังมองหาช่องทางใช้ทองคำเพื่อหนุนงบดุลบัญชีของธนาคารก่อนมีการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test)

อันดับ 2 เยอรมนี ครอบครองทองคำ 3,401 ตัน หรือ 70.8% ของทุนสำรอง ธนาคารกลางเยอรมนีจำกัดเพดานการขายทองคำไว้ที่ 6.5 ตันในปีที่ 2 และได้แสดงความสนใจที่จะซื้อทองคำของโปรตุเกส

อันดับ 1 สหรัฐ มีทองคำในครอบครอง 8,134 ตัน หรือ 74.8% ของทุนสำรอง




เหลี่ยมเศรษฐกิจไทยกับประเทศต่าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น