Boonsom farm บุญสมฟาร์มตั้งอยู่ ท่ามกลางขุนเขา Boonsom farm บุญสมฟาร์มตั้งอยู่ ท่ามกลางขุนเขา ของจังหวัดเชียงใหม่ มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีที่ 30 องศาเซลเซียส ในขณะที่ ระดับอุณหภูมิเหมาะสม ต่อการเจริญเติบโตของสาหร่าย อยู่ที่ 25-35 องศาเซลเซียส และยังเป็นพื้นที่ที่ปราศจากมลภาวะ อากาศบริสุทธิ์ น้ำที่ใช้ในขั้นตอนการผลิตและบ่อเพาะเลี้ยง มาจากแหล่งน้ำที่ได้รับการตรวจสอบ และยอมรับจากการประปานครหลวงว่าเป็นน้ำสะอาดคุณภาพระดับน้ำดื่ม กระบวนการผลิตได้มาตรฐานทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเพาะเลี้ยง การเก็บเกี่ยวทำโดยการกรองน้ำออก ทำให้แห้งด้วยการอบที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสบดเป็นผง อัดเม็ดหรือบรรจุแคปซูลภายในห้องปลอดเชื้อ วิเคราะห์คุณค่าทางอาหารและตรวจหาโลหะหนักอย่างสม่ำเสมอภายใต้การรับรองของสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา บริษัทกรีนไดมอนด์ จำกัด บุญสมฟาร์ม (Factory) 86-87 ม.6 ต.ทุ่งปี้ อ.แม่วาง เชียงใหม่ Tel: 053-363601-3 Fax: 053-363756 สาขาเชียงใหม่ ร้านบุญสมฟาร์มโฮมเมด นิ่มซิตี้เดลี่ ตรงข้าม ม. ฟาร์อิสเทิร์น Tel: 053-275011, 053-273116 http://www.boonsomfarm.com |
"สร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วยอาหารไม่ใช่ด้วยยา" ปัจจุบัน การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ ชนิด เอ (เอช1เอ็น1) กำลังขยายตัวไปทั่วโลก และในขณะนี้ประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตแล้ว จากการติดเชื้อ ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ ชนิดเอ หรือที่เราเรียกว่า ไข้หวัด 2009 จะมีอาการให้คล้ายกันกับไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ส่วนใหญ่มีอาการน้อยและหายเองได้ ไม่ต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่เสียชีวิต มักเป็นผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอด หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน หรือ ผู้ที่มีภูมิต้านทางต่ำ โรคอ้วน ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และ หญิงมีครรภ์ ดังที่ปรากฏในข่าวอยู่บ่อย ๆ ว่า พบผู้ป่วยไข้หวัด 2009 ที่ไม่ได้สัมผัสเชื้อโรคโดยตรง แต่ไปสัมผัสกับคนที่เป็นพาหะ แสดงว่าหาก เราสามารถดูแลร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์แล้ว หากเราสัมผัสกับเชื้อโรค เราก็จะไม่ติดเชื้อ หรือถึงแม้จะติดเชื้อ ก็จะมีอาการไม่มาก สามารถหายได้เองไม่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ดังนั้นหัวใจสำคัญของ การป้องกันไข้หวัด 2009 นอกจากจะรักษาความสะอาด ไม่ไปคลุกคลีกับผู้ป่วย ล้างมือบ่อย ๆ ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดตัว ร่วมกับผู้อื่นแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การรักษาสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารที่มีคุณค่า ทางโภชนาการ ดื่มน้ำมาก ๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ จากหนังสือสาหร่ายอาหารของอนาคต เขียนโดย ศ.ดร.นพ. สมศักดิ์ วรคามิน การสร้างภูมิต้านทาน และหยุดยั้งการเจริญเติบโต ของเชื้อโรค โดยบริโภคสาหร่ายเกลียวทอง นับว่าเป็นคุณอนันต์ ในวงการแพทย์ในปัจจุบัน ยาปฏิชีวนะที่ใช้ทั้งคน และสัตว์ เชื้อโรคสามารถดื้อยา ได้เกือบทุกชนิด จนใช้ยาดังกล่าวไม่ได้ผล และเชื้อโรคที่ต้านยา หลายชนิดเริ่มระบาด จนเป็นปัญหาสาธารณสุข เนื่องจากยาปฏิชีวนะ มักจะเป็นสารเคมีตัวเดียว และชนิดเดียว เชื้อโรคเรียนรู้ได้ง่ายจึงต่อต้าน จนดื้อยาได้ แต่ภูมิต้านทานจากมนุษย์ ซับซ้อนมากเชื้อโรค ไม่สามารถเรียนรู้ จึงไม่สามารถต่อสู้กับภูมิต้านทานได้สาหร่ายเกลียวทองสร้างภูมิต้านทานและหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้อย่างไร สาหร่ายเกลียวทองมีเอนไซม์ไม่ต่ำกว่า 2,000 ชนิด เอนไซม์ที่สำคัญ ๆ จะเข้าไปตัดวงจรไม่ให้เกิดโรคและเอนไซม์บางชนิดมีหน้าที่ซ่อมแซมทำให้เซลล์ที่ถูกทำลาย กลับมาอยู่ในสภาพเดิมและในสาหร่ายเกลียวทองยังมีน้ำตาลเชิงซ้อนไปกระตุ้นเม็ดเลือดขาว ขนาดใหญ่สร้างสารเคมีไปกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวทุกชนิดไปทำลาย จุลินทรีย์และไวรัสได้อย่างเต็มที่และยังไปกระตุ้นเซลล์ตั้งต้นของกระดูกไขสันหลังให้ผลิตเม็ดเลือดขาว และเม็ดเลือดแดงได้มากขึ้น จึงเป็นปราการคุ้มกันและหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ด้วย เอกสารอ้างอิง “สาหร่าย อาหารของอนาคต”.ศ.ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน.พิมพ์ครั้งที่ 2พฤษภาคม,2551. “วีธีป้องกันและควบคุมไข้หวัด 2009”.thaihealth.or.th. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น